ไขข้อสงสัยว่าทำไมผู้ชายถึงได้เป็นเกย์

gay couple

คิดว่าหลายคนน่าจะมีข้อสงสัยกันอยู่ไม่น้อยว่าเมื่อธรรมชาติสร้างร่างกายคนเราให้แบ่งออกเป็นเพศชายและหญิงทว่าด้านจิตใจกลับมีความหลากหลายมากกว่าโดยเฉพาะการมีจิตใจดั่งเพศตรงข้ามของตนเองไม่ว่าจะชายหรือหญิงก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งผิดทุกคนสามารถเลือกความเป็นตัวเองได้ว่าอยากเป็นแบบไหนเพียงแต่หลายคนอาจมีข้อสงสัยเฉยๆ เท่านั้นว่าการที่อย่างผู้ชายเป็นเกย์เกิดมาจากอะไร เป็นข้อสงสัยที่ควรค่ากับการหาคำตอบเหมือนกัน

ตอบความสงสัยที่ว่าทำไมผู้ชายถึงเป็นเกย์

จากการศึกษาได้มีระบุเอาไว้ว่าการที่ผู้ชายรักกับเพศเดียวกันมีสาเหตุอยู่หลายประการไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านชีววิทยา จิตวิทยา สาเหตุมีได้มากมายเริ่มต้นตั้งแต่เรื่องของพันธุกรรม การพัฒนาสมองของเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนเพศรวมไปถึงเรื่องของการอบรมสั่งสอน ประสบการณ์จากการเรียนรู้เมื่อคนๆ นั้นเกิดมา พฤติกรรมดังกล่าวไม่สามารถเกิดได้จากการเลียนแบบ ไม่มีการติดต่อกัน โดยเกย์จะเริ่มรู้สึกว่าตนเองแตกต่างจากเพื่อนฝูงที่เป็นเพศชายเหมือนกันตั้งแต่อายุราว 3-4 ขวบ ไม่ก็เริ่มตั้งแต่การจำความได้ มีการจดจำคำพูดพ่อแม่ตลอดว่าอย่าทำตัวเป็นผู้หญิงจนอาจสร้างความรู้สึกกดดันภายในจิตใจให้กับเด็กๆ ได้ ด้านพฤติกรรมจะรู้สึกถึงความอ่อนไหว ร้องไห้ง่ายกว่าเด็กผู้ชายปกติ กริยามารยาทต่างๆ ชม้อยเหมือนผู้หญิง รักการแต่งตัว นิยมเล่นกับกลุ่มเพื่อนผู้หญิง ไม่ชอบความรุนแรง พอเริ่มโตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นก็จะเริ่มชื่นชอบคนเพศเดียวกันต่างจากเด็กผู้ชายทั่วไปเนื่องจากเด็กๆ มักคิดว่าเกย์เป็นสิ่งที่สังคมรังเกียจทำให้เกิดความสับสนและไม่แน่ใจเรื่องการวางตัวทางสังคม เกิดความกังวล เครียด พยายามหักห้ามหรือปิดบังความรู้สึกของตนเอง บางคนถึงขนาดทำตัวแมน คบแฟนผู้หญิงเพื่อกลบเกลื่อนว่าแท้จริงแล้วตนเองไม่ใช่เกย์ แสดงความก้าวร้าว ห้าว ดุดัน เข้มแข็ง ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ทว่าเด็กบางคนก็รู้ดีถึงปมด้อยของตนเองจึงพยายามสร้างจุดเด่นขึ้นมา เช่น ตั้งใจเรียนหนังสือ มีความเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อทุกคน เป็นต้น

อันที่จริงไม่ว่าจะเกิดเป็นเพศใดหรือมีจิตใจเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่สร้างความรำคาญใจ ไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมในการเกิดมาเป็นมนุษย์เพื่อดำรงชีวิตไปตามแนวทางของตนเอง คนที่ดูถูกดูแคลนคนอื่นต่างหากจะถูกจัดว่าเป็นคนไม่น่าคบในสังคม ไม่มองเห็นในตัวคุณค่าของผู้อื่น เพราะฉะนั้นการอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเพศใด พฤติกรรมใดถ้าหากว่าทำดี ทำประโยชน์ให้กับสังคม มันก็คือเรื่องดีด้วยกันทั้งสิ้นต่อให้ใครก็ตาม